รายงานการฝังเข็มรักษาอัมพาตใบหน้าBell's palsy

รายงาน การรักษาผู้ป่วย Bell’s palsy ขั้นรุนแรงในระยะเฉียบพลันด้วยการฝังเข็ม 

(นำเสนอผลงานวิชาการในการประชุมวิชาการสมาคมแพทย์ฝังเข็มและสมุนไพร ประเทศไทยประจำปีพ.ศ.2550)

บทนำ

    การฝังเข็มรักษาผู้ป่วยโรคอัมพาตกล้ามเนื้อใบหน้า Bell’s palsy นั้น  ได้มีรายงานการศึกษามาแล้วทั่วโลกเป็นจำนวนมาก    อย่างไรก็ตาม รายงานส่วนใหญ่มักจะศึกษาโดยคละผู้ป่วยในระยะเฉียบพลันและระยะหลังเฉียบพลัน รวมทั้งผู้ป่วยที่มีอาการอัมพาต เพียงเล็กน้อยและผู้ป่วยขั้นรุนแรงเข้าด้วยกัน จึงทำให้ไม่สามารถสรุปผลการศึกษาได้แน่ชัด นอกจากนี้  กล่าวในประเทศไทยแล้ว  ก็ยังขาดข้อมูลการศึกษาเรื่องการฝังเข็มในโรคนี้ ด้วยเหตุนี้ ผู้ศึกษาจึงขอเสนอรายงานการรักษาผู้ป่วย Bell’s palsy ด้วยการฝังเข็ม   เพื่อเป็นข้อมูลนำร่องสำหรับการศึกษาที่ละเอียดลึกซึ้งมากขึ้นต่อไป 

กลุ่มตัวอย่างและวิธีการศึกษา

     การศึกษานี้เป็นการศึกษาแบบย้อนหลัง  จากผู้ป่วยโรค Bell’s palsy ที่เข้ามารับรักษาด้วยการฝังเข็มของคลินิกฝังเข็มโรงพยา บาลยันฮี  เขตบางพลัด กทม.  ในช่วงระหว่างมิถุนายน พ.ศ.2541-สิงหาคม พ.ศ.2549    โดยคัดเลือกเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการอัมพาต ใบหน้าขั้นรุนแรงระดับ grade VI ( complete palsy)  ตาม House and Brackmann grading system   และเข้ามารักษาภายใน ระยะเวลา 10 วันแรกนับจากที่เริ่มมีอาการ สำหรับวิธีการฝังเข็มนั้น  ได้ใช้  electroacupuncture เป็นหลัก  โดยเลือกจุด YangBai, YuYao, SiBai, YingXiang, Quanliao, RenZhong,  DiChang ,JiaChe ของใบหน้าซีกที่อัมพาต   กระตุ้นด้วยเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า รุ่น G6805-II  ความถี่ 2 Hz , continuous wave ,ใช้ระดับความแรงกระแสไฟฟ้าที่ทำให้ เห็นกล้ามเนื้อใบหน้าเต้นกระตุกเพียงเล็ก น้อยเท่านั้น

    ขณะเดียวกันปักเข็มจุด  FengChi,  HeGu ทั้งสองข้าง  หมุนกระตุ้นเบาๆประมาณ 10 วินาที  ทุก 10 นาที  แล้วคาเข็ม รวมเวลา ในการกระตุ้นทั้งหมด 30 นาที   โดยทำการรักษาวันละ 1 ครั้ง  วันเว้นวัน  ( 3 ครั้งในหนึ่งสัปดาห์)   10 ครั้งเป็น 1  course  ในกรณี ที่ผู้ป่วยยังไม่หายเป็นปกติ ให้รักษาต่อไปอีก 1  course  ประเมินผลการรักษา เมื่อผู้ป่วยหายเป็นปกติและ ณ เวลา 2  เดือน นับจาก เริ่มต้นรักษา 

การประเมินผลการรักษา ใช้  House and Brackmann grading system  ดังต่อไปนี้ 

ผลการศึกษา

       1. ข้อมูลทั่วไป 

กลุ่มตัวอย่างที่เข้าเกณฑ์การศึกษามีจำนวน  29 ราย โดยมีรายละเอียดตามตารางที่ 1 ดังนี้

    การที่ผู้ป่วยกลุ่มตัวอย่างได้รับเพรดนิโซโลนรักษาด้วยทุกรายเนื่องจากได้รับการส่งตัวและผ่านการตรวจรักษามาจากแพทย์ แผนกอื่นก่อนแล้ว

     2.ผลการรักษา   

    จากการประเมินผลพบว่า ภายในเวลา 2  เดือนนับหลังจากเริ่มฝังเข็มรักษา  มีผู้ป่วยที่เป็น complete Bell’s palsy ( grade VI ) สามารถหายเป็นปกติ (cure ) ได้ 18  ราย  คิดเป็น complete recovery rate เท่ากับ 62 % ,มีผู้ป่วยที่มีอาการดีขึ้นอย่างมาก (markedly improved) 8  ราย คิดเป็น marked improvement rate เท่ากับ 27.5 % และมีผู้ป่วยที่มีอาการดีขึ้นจากเดิม (improved)  3 ราย คิดเป็น improvement rate  เท่ากับ 10.3 %  นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาจำแนกเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่หายเป็นปกติ พบว่า ผู้ป่วยที่ สามารถหายเป็นปกติได้ ภายในเวลา 1 เดือนแรกหลังจากเริ่มฝังเข็มรักษา มี 12 ราย คิดเป็น complete recovery rate เท่ากับ 41.3 %   ตามตารางที่ 2 

 ตารางที่่  2   Cumulative treatment outcome  (N=29)

      3.จำนวนครั้งของการฝังเข็มและระยะเวลาในการหายเป็นปกติ

    กลุ่มผู้ป่วยที่หายเป็นปกติภายในเวลา 1 เดือนแรก จำนวน 12 รายได้รับการฝังเข็มรักษาโดยเฉลี่ย 8.5 ครั้ง รวมเวลาในการ รักษาเฉลี่ย 20.5 วัน ส่วนกลุ่มที่หายเป็นปกติภายใน  2 เดือน จำนวน 6 ราย   ได้รับการฝังเข็มรักษาโดยเฉลี่ย  11.8 ครั้ง รวมเวลา ในการรักษาเฉลี่ย 45.3 วัน 

      4.การเริ่มปรากฏผลตอบสนองต่อการรักษา

    เมื่อเริ่มฝังเข็มรักษาให้แก่ผู้ป่วยอัมพาตใบหน้า จะมีผลสนองปรากฏออกมาให้เห็นเช่น ผู้ป่วยรู้สึกอาการตึงใบหน้าลดลงจากเดิม , สามารถเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น  ยักคิ้ว,หลับตา, เป่าปาก, ดื่มน้ำ, เคี้ยวอาหาร ต่างๆได้ดีขึ้น การเริ่มปรากฏผลตอบสนองนี้ เร็วช้าแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย  ซึ่งมีการกระจายไปตามพยากรณ์โรคของแต่ละกลุ่ม(ตามภาพที่ 1)   จากการศึกษานี้พบว่า ผู้ป่วยที่เริ่มปรากฏผลตอบสนองต่อการฝังเข็ม หลังจากทำไปแล้ว 1 ครั้ง จำนวน 12 ราย มีผู้ป่วยที่สามารถหายเป็นปกติได้ถึง 10 ราย หรือคิดเป็นอัตราการหายเป็นปกติ  83.3 %  โดยผู้ที่หายเป็นปกติทั้งหมดจะเริ่มตอบสนองต่อการฝังเข็มภายใน 4 ครั้งแรก ( ระยะเวลาประมาณ 7-10 วัน) 

บทอภิปราย

    Bell’s palsy  เป็นโรคที่มีความผิดปกติของเส้นประสาท facial nerve แบบ peripheral paralysis ซึ่งไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด  เป็นโรคหนึ่งที่คณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกเสนอแนะว่า สามารถใช้การฝังเข็มรักษาได้

    Bell’s palsy เป็นโรคที่มี spontaneous recovery rate สูงมาก  จากการศึกษาของ E.Peitersen ในผู้ป่วยจำนวน 1,701 ราย (แบ่งป็น Incomplete palsy  512 รายหรือ 30 % ,complete palsy 1,189 ราย หรือ  70 % ) พบว่า 27 % ,58 % และ 71 % ของ ผู้ป่วยทั้งหมดจะสามารถหายเป็นปกติ (complete recovery) ได้ ภายในเวลา 1,  2  และ 6 เดือนตามลำดับ โดยที่ผู้ป่วยที่มีอาการไม ่รุนแรง  (incomplete palsy) จะมีอัตราการหายเป็นปกติ ณ เวลา  6  เดือนสูงถึง 94 % แต่ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงระดับ complete  palsy (Grade VI) จะมีอัตราการหายเป็นปกติ ณ เวลา 6 เดือนเพียง 61 %  เท่านั้น ปัญหา  spontaneous recovery rate ที่สูงจึง เป็นเหตุผลโต้แย้งที่สำคัญเสมอในการพิจารณาว่า วิธีการต่างๆรวมทั้งการฝังเข็มนั้นสามารถรักษาโรค Bell’s palsy  ได้ผลจริงหรือไม่

    หลี่หยิงและคณะได้ทำการศึกษาแบบ randomized controlled trial ในผู้ป่วย Bell’s palsy จำนวน 439 ราย พบว่า กลุ่มผู้ป่วย ที่ได้รับการฝังเข็มและรมยา จะมีผลการรักษาดีกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับการรักษาด้วยเพรดนิโซโลน,วิตามิน บี1 ,บี 12 และ dibazole โดยมีอัตราการหายเป็นปกติ( cure rate ) เท่ากับ 41 %  และ 28  %  ตามลำดับ  โดยไม่ได้จำแนกอัตราการหายของโรคตามระดับ ความรุนแรงของอาการอัมพาต

    เพื่อเป็นการพยายามลดข้อโต้แย้งเกี่ยวกับปัญหา spontaneous  recovery  rate ในการศึกษาครั้งนี้ จึงจำกัดกลุ่มตัวอย่างเฉพาะ ผู้ป่วยโรค Bell’s palsy  ที่มีอาการอัมพาตขั้นรุนแรง   complete palsy (Grade VI)  เท่านั้น

    จากการศึกษานี้พบว่า ภายในเวลา 1 เดือนแรกหลังรักษาด้วยการฝังเข็ม ผู้ป่วยมีอัตราการหายเป็นปกติสูง 41.3 % โดยได้รับ การฝังเข็มเฉลี่ย 8.5  ครั้ง รวมเวลารักษาเฉลี่ย 20.5 วัน หลังจากนั้นต่อไปจนครบ 2 เดือน อัตราการหายเป็นปกติสะสมได้สูงขึ้นเป็น  62 %  จะเห็นได้ว่า เมื่อเปรียบเทียบผลการศึกษานี้กับการศึกษาของ Peitersen การฝังเข็มสามารถช่วยทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วกว่า  และน่าจะช่วยทำให้อัตราการหายเป็นปกติเพิ่มสูงขึ้น หากมีการติดตามผลในระยะเวลาที่ยาวนานกว่านี้

         ระยะเวลาที่ผู้ป่วย Bell’s palsy  เริ่มฟื้นตัวจากโรค (remission) นับเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งต่อพยากรณ์ของโรค จากกร ศึกษาของPeitersen  พบว่า 88 % และ 83 % ของผู้ป่วยที่เริ่มฟื้นตัวในสัปดาห์ที่ 1 และ 2  ตามลำดับ จะสามารถหายเป็นปกติได้  จากการศึกษาครั้งนี้ พบว่า  ผู้ป่วยที่เริ่มตอบสนองต่อการฝังเข็มได้เร็วภายใน 4  ครั้งแรก (ระยะเวลาประมาณ 7-10 วัน) จะสามารถ หายเป็นปกติได้ ประมาณ 64 % ( 18 ใน 28 ราย) ภายในระยะเวลา 2 เดือน

    เมื่อปักเข็มลงไป ผู้ป่วยบางรายสามารถหลับตาได้ทันที ส่วนผู้ป่วยที่เริ่มตอบสนองต่อการฝังเข็มช้า จะมีอัตราการหายเป็นปกติ น้อยกว่า การติดตามดูระยะเวลาที่เริ่มปรากฏผลการตอบสนองต่อการฝังเข็มจึงสามารถคาดคะเนพยากรณ์ของโรคได้

บทสรุป

    การฝังเข็มสามารถใช้รักษาผู้ป่วยโรค Bell’s palsy ในระยะเฉียบพลันที่มีอาการรุนแรงให้หายเป็นปกติได้ผู้ที่เริ่มปรากฏผลการ ตอบสนองต่อการฝังเข็มได้เร็วจะมีพยากรณ์โรคดีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาที่มีกลุ่มเปรียบเทียบและมีขนาดกลุ่ม ตัวอย่างจำนวนมากกว่านี้เพื่อยืนยันผลการศึกษานี้ต่อไป

Reference

  •     E.Peitersen. Bell’s palsy: The spontaneous course of 2,500 peripheral facial nerve palsies of different etiologies. Acta Otolaryngol 2002:Suppl 549:4-30.
  •     Li Ying et al. Efficacy of acupuncture and moxibustion in treating Bell’s palsy: a multicenter randomized controlled trial in  China. CMJ, 2004; 117:1502-1506. 

 

กลับไปบทความน่ารู้